บันทึกประจำปี 2018 [01012018]
บันทึกประจำปี 2018 [01012018]
สวัสดีปีใหม่ 2018 ปีโฮ่ง ที่หมอดูทำนายเอาไว้ว่าเราจะเจริญรุ่งเรืองด้านหน้าที่การเงิน โดยเฉพาะงานหรือประสบการณ์ใหม่ๆที่เขาบอกว่าปีนี้พีคจริงๆ เอาล่ะ เริ่มความหวังปีใหม่ได้เลย
เช้านี้ตื่นนอนก่อน 08.00 น. เพราะมีนัดกับแม่เอาไว้ว่าจะพาแม่ออกไปทำบุญ 5 วัด คือจริงๆในตอนแรกก็กะว่าจะทำบุญ 9 นั่นแหละ แต่ไม่มีทัวร์เลยตัดสินใจไปกันเอง มีเรา แม่ และพี่ชาย ออกจากบ้านประมาณ 09.00 น.
วัดแรกที่ไปก็คือวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ที่มาวัดนี้เป็นวัดแรกก็เพราะ แม่อยากมาไหว้ในหลวง ร.9 แต่พอมาถึงวัดก็พบประชาชนประเทศกรุงเทพมาทำบุญกันเยอะมาก ด้วยจำนวนคน และเวลา สุดท้ายก็ทำให้มองไม่เห็นพระบรมอัฐิ แต่เอาเป็นว่าผ่านพ้นไปด้วยดี จากนั้นก็พากันเดินออกมาแถวหน้าวัดเพราะแม่อยากถ่ายรูปคู่กับป้าย (อันนี้ไม่ได้เลย สำคัญสุด 55555)
พอถ่ายรูปไปสักประมาณหนึ่ง ก็ได้เวลาหาของกินกัน เราพาแม่และพี่ชาเดินมาถนนขึ้นไปที่ถนนพระสุเมรุเพื่อหาของกิน ซึ่งวันนี้ที่เป็นวันจันทร์ ต้นปี ต้นเดือน และปีใหม่ เลยมีร้านเปิดไม่มาก ส่วนแม่ก็ไม่กินหมูวันจันทร์เพราะบนเจ้าแม่กวนอิมขอน้องชาย โจทย์การหาร้ายเลย เป็นอะไรก็ได้ที่ไม่มีหมูและเนื้อ (คนนับถือเจ้าแม่กวนอิมไม่กินเนื้อวัวหรือสัตว์ใหญ่อยู่แล้ว) พวกเราเลยเดินมาเจอร้านอาหารจีนที่ขายปาท่องโก๋ย่าง และเดินมาอีกหน่อยเจอร้านอาหารตามสั่งที่เป็นครอบครัวคนจีน แม่สั่งพี่ชายไปต่อแถวอันยาวเหยียดซื้อปาท่องโก๋มากิน ส่วนแม่กับเรานั่งรอร้านอาหารตามสั่ง สั่งข้าวผัดทะเลกับข้าวราดหน้ากะเพรามาจัดมื้อแรกของปีกัน พร้อมด้วยกุยช่าย
พออิ่มท้องก็พาแม่ที่นานๆทีเข้ากทม. ปกติอยู่โซนสมุทรปราการไม่ค่อยเข้าเมือง 7 วันของทั้งชีวิตแม่หมดไปกับการทำงานและนอนเล่นที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ทีนี้เลยพาโบกตุ๊กตุ๊ก Thai Taxi แม่ชอบใจใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้นั่งสักเท่าไหร่ และด้วยฟิลการนั่งตุ๊กตุ๊ก เลยทำให้ทัวร์ไหว้พระ 5 วัดครั้งนี้ ดูเหมือนนักท่องเที่ยวมากขึ้นมาอีก ซึ่งจุดหมายของตุ๊กตุ๊กก็คือ วัดพระเจ้า กับ วัดโพธิ์ วัดที่ 2 และ 3
วัดที่ 2 ที่จะมาทำบุญก็มาถึงด้วยฟิลที่ร้อนระอุมากๆ พอมาถึงวัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นทัวร์จีนซะส่วนใหญ่ก็ทำห่อเหี่ยวเลยทีเดียว แถมอากาศตอนนี้ประมาณเกือบ 11.00 น. ก็โคตรจะร้อนเลย แต่พอมาถึงแล้วก็เลยต้องลุย
บอกเลยว่ายิ่งเดินยิ่งท้อ แต่ก็เข้าใจนะว่าปีใหม่ คนก็อยากเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆกับการท่องเที่ยวในที่ๆแปลกตา หรือสถานที่มงคล และเพราะคิดแบบนี้ เลยลุยกันจนเข้ามาถึงด้านในกันจนได้ แต่คนนี่ โคตรเยอะ เยอะกว่าด้านนอก สุดท้ายเลยไม่ได้เข้าไปด้านในเพื่อสักการะพระแก้วมรกต แต่ก็พอมองเห็นไกลๆว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใส่เครื่องทรงฤดูหนาวแบบที่เคยเห็นในทีวี พอเดินเข้ามาแล้ว แม่ก็เดินถ่ายรูปกับยักษ์ ซึ่งแม่บอกว่าไม่ได้ต้องถ่าย นี่แลนด์มาร์กเลยนะ แม้อากาศจะร้อนและแม่เริ่มมึน พวกเราก็สู้กันต่อ
โอเค แม่อาจจะตื่นเต้นกับทุกอย่าง ถึงแม่จะอายุเยอะแล้วด้วยวัยเหยียบครึ่งอายุคน แต่ความคิดของแม่หลายๆอย่างก็มีความเป็นเด็กๆสูงมาก เลยตื่นเต้นไปหมด ส่วนลูกๆทั้งสอง ที่กำลังพยายามเติบโตเป็นเป็นผู้ใหญ่ก็เลยแอบขัดใจนิดๆ บางครั้งพี่ชายเลยต้องปรามแม่ หรือบางทีก็เป็นเราปรามบ้าง แต่แม่ก็ม้วนชื่นกับการถ่ายรูป และหลบแดดในร่มต่อไป ระหว่างเดินไปยังวัดที่ 3
วัดที่ 3 วัดโพธิ์ วัดต้นตำหรับการนวด พอมาถึงที่นี่ ที่ทั้งร้อนและคนเยอะ แม่ก็ไม่ยอมหยุดกินน้ำเพราะกลัวปวดฉี่ และก็ไม่ยอมนวด ซึ่งพอมาจริงๆก็ไม่รู้ว่าเขามีโซนนวดที่ไหน พวกเราก็เดินไหว้พระสำรวจวัด จนมาเจอพระนอนองค์ใหญ่ แต่คนเยอะมาก เลยไม่ได้เข้าไป ก็ไหว้กันครั้งนอก และทำบุญ จากนั้นก็เตรียมเดินทางไปต่อ
(ภาพไม่ชัด เพราะปรับแสงไม่ทันเพิ่งหยิบกล่องมาลองเล่นวันแรก)
พวกเราเดินทางออกจากวัดโพธิ์มุ่งหาไปท่าเตียน เพื่อข้ามฟากไปวัดที่ 4 ของวันนี้ ซึ่งตอนแรกกะว่าจะไปวัดระฆังก่อน แต่เส้นทางมันอยู่คนละทาง เลยตัดสินใจ นั่งเรือไปวัดที่เคยเห็นบนเหรียญบาท (?) ซึ่งแน่นอนเลยยูว่าคนเยอะมากกกกกกกกก แถมร้อนมากๆด้วย ตอนนี้เกือบจะ 12.00 น. แล้ว แต่แม่ก็อยากลองนั่งเรือที่ไม่ได้นั่งมานานแล้วดู
หลังจากได้ขึ้นเรือ ปรากฏว่าแม่ชอบนั่งเรือมากจ้า เพราะอากาศมันเย็น ฟิลแบบตาแทบปิดจากแดดและลม คือถ้าตอนนั้นมีหมอนคงนอนกันแล้ว (แม้จะนั่งข้ามฟากด้วยเวลาไม่กี่นาทีก็ตาม)
วัดที่ 4 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดนี้คนก็เยอะพอสมควรเพราะถือเป็นวัดดัง แต่ประเด็นคือ เรา แม่ และพี่ชายเดินหลงไปไกลอ้อมไกลทางด้านหลัง แต่ก็เดินเล่นๆจนมาเจออุโบสถ และได้ทำกราบไหว้ทำบุญกันไปแบบเกือบจัดชุดใหญ่ แต่ก็ต้องยั้งมือกันเพราะตอนนี้พวกเราทั้งหมด อยู่ในช่วงวิกฤตทางการเงิน เลยทำน้อยๆแบบพอมี ด้วยการถวายเสื่อให้วัดไปชุดหนึ่ง ราคา 100 บาท
พอทำบุญเรียบร้อย ก็เตรียมมุ่งหน้าไปวัดสุดท้ายของวัน ซึ่งท้ายที่สุดก็ตัดสินใจกันตรงนี้ว่าไม่ไปต่อ เพราะแม่ร้อน หิว และเหนื่อยมาก พวกเราเลยเดินเล่นถ่ายรูปที่วัดกับแลนด์เจดีสูงใหญ่โดดเด่นริมน้ำ ซึ่งก็ได้เดินขึ้นไปชมด้วย แม่ก็แอบขาสั่นนิดๆเพราะบันไดชันมากกกกกกกกกกกก แต่ก็คุ้มที่เดินมาดูนะ
พวกเราเดินมารอเรือเพื่อจะไปจบกันที่เอเชียทีค และหาอะไรกินที่นั่น ซึ่งเป็นเวลา 13.30 น. โดยประมาณ และตอนนี้ก็หิวน้ำ หิวอาหารกันสุดๆแล้ว พวกเราเดินทางกันไปด้วยเรือธงส้มที่เขาบอกว่าด่วน แต่ก็มีน้อยลำมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นธงฟ้าที่จ่ายตั้งฟิฟตี้บาทแน่ะ เราก็รอธงส้ม 15 บาทกันอย่างใจเย็น แต่แม่ก็ชิลไป นั่งปล่อยใจไปกับท่าน้ำ จนลูกๆต้องเรียกว่า เรือมาแล้วววววววววว และก็เช่นเคย แม่ชอบนั่งเรือสุด เพราะลมเย็น (แต่ตอนแรกได้ยืนกันก่อนนั่ง)
พอมาถึงท่าเรือสุดท้าย ปลายทาง ท่าเรือวัดราสิงขร พวกเราก็ได้เจอวัดที่ 5 ที่ตอนแรกกะว่าจะจบแค่ 4 ทีนี้ก็เลยทำบุญแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าทำบุญเยอะสุด มากสุดกว่าวัดดังๆที่ผ่านมา
และก่อนจะจบทริปทำบุญ 5 วัดวันปีใหม่ ก็มาจบกันที่เอเชียทีค จนประมาณ 17.00 น. ซึ่งตอนแรกแม่บอกว่าอยกเห็นไฟกลางคืนริมน้ำ แต่แม่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะรอ เพราะแม่ไม่ใช่นักเที่ยวสายเดิน พวกเราก็เลยจบทริปกันแค่นี้
ทริปหน้าเจอกันใหม่ กลับมาเจอกันเมื่อลูกมีเงินพร้อมเที่ยว 5555555555555
รูปประกอบจากกล้อง Canon Digital IXUS 100I5 กล่องคอมแพคเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว พอดีไปค้นเจอเลยเอาออกมาถ่าย ปรากฏว่ายังใช้งานได้ เราก็เลยต้องจัด ซึ่งฟิลภาพมีความเก่ามากบอกเลย ไม่ทันสมัย แต่ก็ดูอบอุ่นดี
รูปประกอบจากกล้อง Canon Digital IXUS 100I5 กล่องคอมแพคเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว พอดีไปค้นเจอเลยเอาออกมาถ่าย ปรากฏว่ายังใช้งานได้ เราก็เลยต้องจัด ซึ่งฟิลภาพมีความเก่ามากบอกเลย ไม่ทันสมัย แต่ก็ดูอบอุ่นดี
สวัสดีปีใหม่ 2018
ปีนี้ขอให้เจอแต่ความสนุก และเงินไหลมาเหมือนเขื่อนแตกมาใส่กระเป๋าตัง